ความหวังที่หายไปในวัย(เกือบ)30
- modwangwithlife
- Sep 11, 2024
- 1 min read

มีใครรู้สึกหมดหวังเหมือนเราไหม
ปีนี้เราอายุ29ปีแล้ว แต่เป็นปีแรกในชีวิตที่รู้สึกท้อแท้ขนาดนี้ ถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไร เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้เล่าเรื่องราวในปีนี้ให้อ่านกันนะ
เมื่อปลายปี2023 เราโดน lay off จากงาน ในตอนนั้นบริษัทได้ปลดพนักงานประมาณ 20% ความรู้สึกแรกเลย คือใจหายปนกับสงสัยว่าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร แต่ในความคิด ณ ตอนนั้น เราเชื่อว่าเราสามารถหางานใหม่ได้ภายใน 6-10 เดือน เพราะตั้งแต่หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยเราก็ยุ่งมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีงานที่เราไม่ได้ชอบมากนัก แต่เราก็มีความหวัง ความฝัน และความมุ่งมั่นพอที่คอยผลักดันเราอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าตอนโดน lay off ออกจากที่ทำงานเก่า เราก็ยังมีแรงและกำลังใจจากประสบการณ์เก่าๆที่ผ่านมาและในตอนนั้น เราเชื่อว่าเราคงสามารถหาเส้นทางการใช้ชีวิตใหม่ในปี2024
แต่ถึงตอนนี้ก็ผ่านมานานกว่า10 เดือนแล้ว เรายังหางานใหม่ไม่ได้เลย เราเข้าสัมภาษณ์ประมาณ 4-5 ที่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานเลย
ในระยะเวลา 6 เดือนแรก เรายังพอมีแรงสมัครงานในทุกๆวัน วันละอย่างน้อย 10 ที่ แต่พอเราโดนปฏิเสธบ่อยๆ ร่างกายเราก็ค่อยๆหมดแรง
เราไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนในความหวังและความกล้าฝันของเรามันเกิดขึ้นในวันไหน ถ้าให้เดามันก็คงสะสมมาเรื่อยๆ จนมาถึงวันหนึ่ง อยู่ๆเราก็ไม่สามารถลุกออกมาจากเตียงได้ เราไม่เคยซึมจนถึงขั้นนี้มาก่อนเลย เช้าวันนั้นเราจ้องหน้าจอโทรศัพท์และเลื่อนดูรูป วิดิโอ แล้วข้อความต่างๆใน social media อย่างไร้จิตวิญญาณ ทุกๆอย่างที่ผ่านสายตาเราไม่ได้รับการซึมซับเข้าไปในหัวเลย นิ้วเราขยับเองโดยอัตโนมัติโดยที่สมองเราไม่ได้สั่งการอะไรทั้งนั้น ในวินาทีนั้น ร่างกายของเรากลัวการที่จะต้องออกไปพจญภัยบนโลกของการหางาน เรากลัวการโดนปฏิเสธมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะสามารถรับคำว่า no ได้อีกมากแค่ไหนกัน เราไม่อยากวางมือถือลงเลย เพราะเรากลัวว่าถ้าสมองและจิตใจเราว่างเพียงแค่ 1 นาที ความรู้สึกทุกๆอย่างจะโถมเข้ามา
ทั้งชีวิตของเรา เราให้ความหวังนำทางเราเสมอ เรากล้าที่จะฝันเพราะเราเชื่อมาโดยตลอดว่าความหวังของเราจะเป็นแรงสำคัญที่จะพาตัวเราไปถึงจุดหมายต่างๆในชีวิตได้ แต่ในเวลานี้ เราไม่สามารถที่จะผลิตความหวังหรือความฝันอะไรได้อีกแล้ว ในทุกๆวัน เราเอาแต่ร้องไห้ให้กับตัวเอง ให้กับสถานการณ์ของเรา ให้กับความฝันของเราที่ดับลงไปหมด เราเสียน้ำตาไปเยอะมากจนเราไม่รู้ว่าร่างกายเรายังหาความทุกข์อะไรมาผลิตมันได้อีก
เราไม่เข้าใจเลยว่าเราจะต้องเดินไปข้างหน้าอย่างไรถ้าเราไม่มีความหวัง เราไม่สามารถที่จะมองเห็นถึงสีสันของชีวิตในอนาคตอีกได้เลย
เราเขียนสิ่งนี้ขึ้นมาเพราะเราต้องการจะบันทึกเส้นทางการตามหาความหวังของเราอีกครั้ง พูดตรงๆว่าเราเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครเข้ามาอ่านไหม แต่ถ้ามี ก็หวังคุณกับเราจะสามารถเป็นเพื่อนไร้ความหวังของกันและกันได้ และขอให้วันหนึ่งในอนาคต คุณกับเราจะค่อยๆเติมเต็มความหวังให้เข้ามาในชีวิตของพวกเราได้อีกครั้ง และเมื่อวันนั้นมาถึงแล้ว ก็หวังว่าเราจะยังไม่ปล่อยมือกัน
ตอนนี้เรารู้สึกเหงาและเคว้งมากเลย
อยู่เป็นเพื่อนกันหน่อยนะ
Comments